• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตู้คอนโทรลไฟฟ้า คืออะไร

Started by Fern751, August 16, 2023, 08:50:39 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

ตู้คอนโทรลไฟ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่มีความจำเป็นอย่างมากมาย เพราะเหตุว่าใช้เป็นตัวคอนโทรลไฟฟ้าทั้งระบบ หรือเครื่องจักรกลต่างต่างๆซึ่งปฏิบัติภารกิจคุมไฟฟ้านั่นเอง ตู้คอนโทรลไฟ ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล เอาไว้ภายในงานต่างๆที่ต้องการได้ ดังเช่นว่า การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ และก็ยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามรูปแบบของการนำไปใช้งาน และตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีบทบาทแตกต่างกันออกไป ดังนี้
  • ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าหลัก รูปแบบการทำงานของตู้ MDBคือการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านทานเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงไฟฟ้าเเล้วก็เลยจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker คอยเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยธรรมดาใช้กันในอาคารที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในจำนวนมาก
  • ตู้เเผงควบคุมไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นกับขนาดของอาคารลักษณะที่คล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กมากยิ่งกว่า เเละเครื่องมือทางไฟฟ้าข้างในก็ลดหลั่นลงมา
  • ตู้ MCC (Motor Control Center) คือ ตู้เเบบตั้งพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นศูนย์รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะติดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์เหล่านี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อกับบัสกำลังในเเนวนอน
  • ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบกระแสไฟฟ้ากำลังการแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความหมายอย่างยิ่ง เนื่องมาจากเป็นตัวที่ทำให้รายจ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงได้ ระบบกระแสไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีการสิ้นไปในระบบมาก เพราะฉะนั้น เครื่องใช้ไม้สอยที่ประยุกต์ใช้งานจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องมือต่างๆเพิ่มขึ้น

โดยเหตุนี้การแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงมากขึ้นก็เลยมีความจำเป็นต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆความจริงในตึกหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการพลังงานไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละกำลังไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้เพื่อการทำงาน